อุบลราชธานี เมืองดอกบัวที่นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวก็งดงามไม่แพ้จังหวัดไหนๆ และหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของชาวอุบลฯ และพื้นที่ใกล้เคียงในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาสูงที่ชื่อว่า ‘วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว’ หรือที่หลายๆ คน เรียกสั้นๆ จนติดปากว่า ‘วัดภูพร้าว’ นั่นเอง
ด้วยความเป็นคนในพื้นที่ แน่นอนว่าเราไม่พลาดไปเยี่ยมชมสถานที่สวยงามยอดฮิตแห่งนี้ เราและเพื่อนๆ ใช้เวลาในช่วงเย็นหลังเสร็จสิ้นภารกิจการงานขับรถไปชมวิว ถ่ายภาพเก็บความประทับใจภายในวัดภูพร้าว
ด้วยความเป็นคนในพื้นที่ แน่นอนว่าเราไม่พลาดไปเยี่ยมชมสถานที่สวยงามยอดฮิตแห่งนี้ เราและเพื่อนๆ ใช้เวลาในช่วงเย็นหลังเสร็จสิ้นภารกิจการงานขับรถไปชมวิว ถ่ายภาพเก็บความประทับใจภายในวัดภูพร้าว
แม้เส้นทางที่มุ่งตรงมายังวัดภูพร้าวจะขรุขระไปบ้าง เพราะอยู่ในระหว่างซ่อมถนน แต่พอขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศด้านบน นับว่าคุ้มที่ตัดสินใจมา พวกเรามาถึงวัดเวลาประมาณห้าโมงเย็น ทันทีที่ก้าวเท้าออกจากรถ สิ่งแรกที่เห็นคืออุโบสถศิลปะล้านช้างตั้งตระหง่านอยู่ เราจึงเข้าไปกราบพระพุทธรูปในอุโบสถเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะออกไปชมพระอาทิตย์ตกดิน และชมบรรยากาศโดยรอบวัดที่ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ มีจุดชมวิวที่มองเห็นลำน้ำสองฝั่งโขง ทอดยาวอยู่ไกลๆ
ไม่นานหลังพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ความสวยงามตระการตาที่แท้จริงก็ปรากฏขึ้น บริเวณภายในและโดยรอบอุโบสถมีการเปิดไฟสีเหลืองนวลสว่างรับกับสีทองของตัวอุโบสถที่ตกแต่งด้วยลวดลายต่างๆ อย่างสวยงาม ปรากฏเป็นภาพที่งดงามจับใจ
เราเริ่มสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนเดินไปด้านหลังอุโบสถ พร้อมตั้งกล้องไว้บริเวณที่มีประติมากรรมต้นกัลปพฤกษ์ ด้วยความสงสัยจึงอดถามออกไปไม่ได้ ทำให้ทราบว่าในช่วงกลางคืนเวลาประมาณหนึ่งทุ่มเป็นต้นไปต้นกัลปพฤกษ์ต้นนี้จะเรืองแสง ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นแสงสีเขียวเล็กๆ แต่ถ้าถ่ายภาพออกมาแสงนั้นจะชัดเจนเป็นภาพที่งดงามมากๆ
แม้เป็นคนอุบล แต่ด้วยเป็นครั้งแรกที่มา และไม่เคยหาข้อมูลใดๆ มาก่อน ทำให้เพิ่งทราบความพิเศษของวัดแห่งนี้ จนอยากชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่ด้วยยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะถึงหนึ่งทุ่ม ประกอบกับหลายคนในกลุ่มเริ่มเหนื่อยและหิว พวกเราจึงตัดสินใจเดินทางกลับ...
แม้จะเสียดายที่ไม่ได้ชมประติมากรรมต้นไม้เรืองแสง แต่แค่ได้มากราบพระ ชมความสวยงามของอุโบสถที่รับกับแสงไฟยามค่ำคืน และยังได้ชมพระอาทิตย์ตกดินแบบชัดๆ ก็นับว่าคุ้มแล้ว
มาคราวหน้า สัญญาว่าจะไม่พลาดที่จะเก็บภาพต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง และชมความงดงามของดวงดาวบนท้องฟ้าที่เชื่อแน่ว่าคงงดงามจับใจ
ไว้คราวหน้า เจอกันใหม่นะ ‘วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว’
……………………………………………
ข้อมูลเพิ่มเติม
เราเริ่มสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนเดินไปด้านหลังอุโบสถ พร้อมตั้งกล้องไว้บริเวณที่มีประติมากรรมต้นกัลปพฤกษ์ ด้วยความสงสัยจึงอดถามออกไปไม่ได้ ทำให้ทราบว่าในช่วงกลางคืนเวลาประมาณหนึ่งทุ่มเป็นต้นไปต้นกัลปพฤกษ์ต้นนี้จะเรืองแสง ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นแสงสีเขียวเล็กๆ แต่ถ้าถ่ายภาพออกมาแสงนั้นจะชัดเจนเป็นภาพที่งดงามมากๆ
แม้เป็นคนอุบล แต่ด้วยเป็นครั้งแรกที่มา และไม่เคยหาข้อมูลใดๆ มาก่อน ทำให้เพิ่งทราบความพิเศษของวัดแห่งนี้ จนอยากชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่ด้วยยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะถึงหนึ่งทุ่ม ประกอบกับหลายคนในกลุ่มเริ่มเหนื่อยและหิว พวกเราจึงตัดสินใจเดินทางกลับ...
แม้จะเสียดายที่ไม่ได้ชมประติมากรรมต้นไม้เรืองแสง แต่แค่ได้มากราบพระ ชมความสวยงามของอุโบสถที่รับกับแสงไฟยามค่ำคืน และยังได้ชมพระอาทิตย์ตกดินแบบชัดๆ ก็นับว่าคุ้มแล้ว
มาคราวหน้า สัญญาว่าจะไม่พลาดที่จะเก็บภาพต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง และชมความงดงามของดวงดาวบนท้องฟ้าที่เชื่อแน่ว่าคงงดงามจับใจ
ไว้คราวหน้า เจอกันใหม่นะ ‘วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว’
……………………………………………
ข้อมูลเพิ่มเติม
ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง : ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงสีเขียว เกิดจากสารเรืองแสงที่เรียกว่าฟอสเฟอร์ (Phosphor) ซึ่งติดอยู่บริเวณโดยรอบต้นไม้ ออกแบบโดยช่างคณากรปุณโณ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่อง อวตาร
การเดินทาง : ใช้เส้นทางสิรินธร – ช่องเม็ก ก่อนถึงช่องเม็กประมาณ 2 กิโลเมตร จะเจอที่กลับรถ สังเกตด้านซ้ายมือจะเห็นป้ายชื่อวัด เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาประมาณสองกิโลเมตรก็จะถึง ‘วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว’ สถานที่ยอดฮิตของจังหวัดอุบลราชธานี
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.guideubon.com
หมายเหตุ: สำหรับเรื่องนี้ตุ๊กเคยเขียนเล่าครั้งแรกในเพจสถานีไออุ่น เพจอีกเพจที่ตุ๊กเขียนงานเพ้อ ๆ อยู่ ถ้าสนใจแวะไปได้นะคะ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://web.facebook.com/AiAoonStation/?ref=bookmarks
ขอบคุณค่ะ^^
ตุ๊ก^^
Thailand Discovery Tour
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น